รูเล็ต 7 รูปแบบ ที่คุณอาจจะไม่เคยรู้จักมาก่อน

การเล่นเดิมพันเกม ‘รูเล็ต’ นั้นสนุกสนานมากมาย แต่หลายๆ คนเมื่อเล่นสักพัก ก็เกิดความรู้สึกต้องการอะไรที่แปลกใหม่ นี้คืออีก 7 รูปแบบเกมวงล้อรูเล็ต ที่คุณอาจจะไม่เคนได้ยินมาก่อน ไปทำความรู้จักกันเลย

ใครจะไม่รู้สึกดีล่ะ ถ้าเกมเดิมพันที่สนุกสนานอันคุ้นเคย มีรูปแบบการเดิมพันใหม่ๆ เพิ่มเติมเข้ามา เพื่อสร้างสีสันและความแปลกใหม่ในเกมพนันที่ชื่นชอบ ใครๆ ก็คงอยากทดลองเล่นอยู่แล้ว ในบทความนี้จึงได้นำเอา 7 รูเล็ตรูปแบบที่แตกต่าง มาแชร์ให้ได้ทราบกัน เผื่อว่ากำลังมองหาการเดิมพันใหม่ๆ มาเป็นสีสันบนเส้นทางเสี่ยงโชคนั้นเอง

1. รูเล็ตรหัสตัวอักษร(Alphabetic Roulette)

สำหรับการเดิมพันเกมวงล้อในรูปแบบรูเล็ตรหัสตัวอักษร ซึ่งสร้างความหลากหลายให้กับเกมวงล้อรูเล็ต ด้วยการใส่ตัวอักษรลงไปในแต่ละช่องวงล้อแทนที่ตัวเลขแบบดั้งเดิมนั้นเอง ซึ่งเกมรูเล็ตตัวอักษรนี้ จะถูกจัดให้มี 25 ช่อง ใส่ตัวอักษร A ถึง X และมีช่องพิเศษอีก 1 ช่องสำหรับใส่ตัวอักษร Y หรือ Z (โดยสองตัวอักษรนี้สามารถอยู่ในช่องเดียวกันบนวงล้อก็ได้)

ในเกมรูปแบบนี้จะประกอบด้วย 6 สีที่แตกต่างกัน ผู้เล่นจะเห็น 4 ตัวอักษรที่อยู่ในช่องสีเดียวกัน ส่วนอักษรพิเศษอย่าง YZ จะอยู่ในช่องที่ไม่มีสี (เปรียบเทียบง่ายๆ คือ YZ ใช้หลักการเดียวกันกับรูเล็ตแบบดั้งเดิม 00 และ/หรือ 0 ที่อยู่ในช่องสีเขียว ในขณะที่ตัวเลขอื่นๆ อยู่ในช่องสีแดงหรือดำ)

ผู้เล่นสามารถเดิมพัน 2 ตัวอักษร, 3 ตัวอักษร หรือ 4 ตัวอักษร ก็ได้ตามใจ หรือว่าจะลงเดิมพันเป็นคำเล่นก็ยังได้ ยกตัวอย่างเช่นคำว่า “Party Pit” ก็สามารถลงเดิมพัน P, A, R, T, Y, หรือ I รวมไปถึงการแทงสีในช่องวงล้อ และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งเจ้ามือเดิมพันสามารถสร้างกติกาได้ไม่จำกัดเลย ทำให้เกิดความหลากหลายเดิมพันได้ไม่รู้เบื่อ

2. แบ็ค ทู แบ็ค รูเล็ต (Back 2 Back Roulette)

สำหรับรูเล็ตในรูปแบบนี้ ไม่ว่าจะเขียนเป็น Back2Back Roulette หรือว่า Back to Back Roulette มันก็คือตัวเดียวกันนั้นล่ะ ความแปลกใหม่ในการเดิมพันรูปแบบนี้ก็คือ ผู้เล่นสามารถลงเดิมพันตัวเลขข้างเคียงได้นั้นเอง และถ้าหากผลออกมาแทงเข้าสองครั้ง จะได้เงินรางวัล 1200 ต่อ 1 เลยทีเดียว ซึ่งแบ็ค ทู แบ็ค รูเล็ต มีให้เดิมพันที่ แอตเลติก คาสิโน ที่รีโน่ เนวาด้า และบางเว็บไซต์พนันออนไลน์เช็คได้ที่ asiancasinotop10

3. รูเล็ตเพชร (Diamond Roulette)

นั้นคือ รูเล็ตเพชรที่มีการใส่มีต่างๆ หลากหลายให้พิเศษกว่าที่เคย แทนที่จะมีแค่ สีแดง, สีดำ หรือว่าสีเขียว ซึ่งรูเล็ตเพชรมีสีดังต่อไปนี้:

1.      แดง
2.      ฟ้า
3.      เขียว
4.      เหลือง
5.      ม่วง
6.      ดำ

แต่ละสีจะมี 6 ตัวเลข ซึ่งจะโดยทั่วไปอัตราการจ่ายเดิมพันสีนั้นอยู่ที่ 5 ต่อ 1 ซึ่งบนโต๊ะจะมีช่องที่มีหมายเลขศูนย์สองตัว (00) ซึ่งสามารถเดิมพันควบคู่กันได้ทั้งแทงสีและแทงศูนย์

4. ดับเบิ้ล แอคชั่น รูเล็ต (Double Action Roulette)

สำหรับการเดิมพันรูเล็ตประเภทนี้คือการผสมผสาน แทนที่จะมีแค่วงล้อเดียว แต่เกมนี้มีให้ถึง 2 วงล้อ วงเล็กที่อยู่ข้างในวงใหญ่ ลูกบอลจะวิ่งวนทั้งสองวงล้อ ผลลัพท์ที่ออกมาจะมีสองตัวเลขในการหมุนวงล้อแค่ครั้งเดียว ซึ่งผู้เล่นสามารถเลือกเดิมพัน วงใน วงนอก หรือว่าทั้งสองวงก็ได้ตามใจเลย แต่การเดิมพันมีข้อควรระวังคือ เมื่อมีโอกาสเดิมพันชนะมากขึ้นแล้ว อัตราค่าน้ำจากทางคาสิโนก็สูงขึ้นตามเช่นเดียวกัน ผู้เล่นควรสอบถามและตรวจสอบราคาอัตราการเดิมพันก่อนจะดีกว่า

5. ดับเบิ้ลบอล รูเล็ต (Double Balls Roulette)

ถ้าหากรูเล็ตสองวงล้อยังไม่น่าพอใจ ลองเล่นรูเล็ตแบบสองลูกบอลดูกันไหมล่ะ ซึ่งวงล้อ, ช่อง, ตัวเลข, การหมุน และกติกาแทบทั้งหมด เหมือนกับรูเล็ตแบบดั้งเดิม เพิ่มเติมคือการมีสองลูกบอลนั้นเอง ส่วนกติกาพิเศษสำหรับการเดิมพันบอลสองลูกจะแตกต่างตามผู้ให้บริการ ซึ่งควรตรวจสอบก่อนเล่น โดยเกมนี้มีอีกชื่อเรียกว่า ดับเบิ้ลบอล แจ็คพอต เพราะว่าถ้าบอลสองลูกตกลงในตัวเลขเดียวกัน การจ่ายรางวัลในเกมนี้คือมากขึ้นเป็นเท่าตัวเลยทีเดียว

6. ไพร์ม ไทม์ รูเล็ต (Prime Time Roulette)

เกมนี้จะมีตัวเลือกเดิมพันคือ 11 ตัวเลขสำคัญบนวงล้อ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเจ้ามือเดิมพันสามารถกำหนดได้เอง ยกตัวอย่างเช่น  1, 2, 3, 5, 7, 11, 13, 17, 19, 23, 29 และ 31 ซึ่งการเดิมพันนั้นจะดำเนินตามจำนวนครั้งที่ตัวเลขสำคัญปรากฏ ถ้าบอลหล่นไปอยู่ในช่องที่ไม่ใช่ตัวเลขสำคัญนั้นคือแพ้พนัน

7. รวดเร็วรูเล็ต (Rapid Roulette)

ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นรูเล็ตแบบรวดเร็ว ซึ่งมันก็คล้ายๆ แบบดั้งเดิมนั้นล่ะ แต่แทนที่จะวางชิพบนโต๊ะ ผู้เล่นสามารถวางเดิมพันผ่านเครื่องมืออิเล็คทรอนิคแทน มันก็สนุกสนานดีนะ แต่อาจจะลดความคลาสสิคลงไปบ้าง แต่ถ้าใครต้องการความรวดร็วแบบนี้ตอบโจทย์แน่นอน