วิธีเล่นไพ่ป๊อกเด้ง แบบง่ายๆ เข้าใจกันได้ในบทความเดียว
ใครที่กำลังมองเกมไพ่เล่นง่าย ได้เงินเร็ว ฝึกไม่ยาก สามารถเดิมพันได้แบบไม่ซับซ้อนเลย ‘ไพ่ป๊อกเด้ง’ คือสิ่งที่อยากแนะนำเป็นอย่างยิ่ง
เว็บไซต์พนันออนไลน์ที่ได้รับการรีวิวบน Asiancasinotop10 มีเกมส์สนุกๆ การเดิมพันมากมายรอคอยให้บริการผู้เล่น เกมส์ไพ่ป๊อกเด้ง คือิีกการพนันสนุกๆ ที่แนะนำสำหรับคนที่ชอบความรวดเร็ว ง่ายๆ แต่ตื่นเต้นมากๆ ยิ่งกับคนที่ไม่เคยเดิมพันเกมส์ไพ่ด้วยแล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากลำบากอะไร สามาฝึกกันได้ในเวลาอันรวดเร็ว ดังนั้นบทความนี้จะมากล่าวถึงรายละเอียด วิธีการเล่นไพ่ป๊อกเด้ง หรือบางคนเรียกว่าเกมป๊อก 9 ให้ละเอียด ใครที่ยังเล่นไม่เป็นอ่านบทความนี้แล้ว ก็สามารถไปเดิมพันได้เลย กติกาเป็นอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลย อ่านบทความนี้จบรับรองสามารถเดิมพันได้ทันที
-
แต้มบนหน้าไพ่
A = 1 แต้ม, J Q K = 10 แต้ม, เลขบนหน้าไพ่ = 2-10 แต้มยึดตามไพ่แบบตรงไปตรงมา
ส่วนแต้มที่ได้รวมกันถ้าหากเกิน 10 ให้คิดเอาเฉพาะเลขตัวท้าย ยกตัวอย่าง เช่น ได้ไพ่ A และ J ผลรวมได้ คือ 1 + 10 = 11 แต้ม ตามกติกาจะตีเป็น 1 แต้ม ส่วนถ้าได้ไพ่ 6 และ 7 แต้ม จะรวมกันได้ 13 แต้ม ตามกติกาคิดเป็น 3 แต้ม ซึ่งถือว่าจะน้อยกว่า การได้หน้าไพ่ 2 และ 3 แต้ม ซึ่งรวมกันเป็น 4 แต้มนั้นเอง
-
กติกาการแจกไพ่
สำหรับการแจกไพ่ โดยเบื้องต้นจะแจงคนละ 2 ใบ ถ้าหากขอจั่วไพ่เพิ่ม จะสามารถจั่วเพิ่มได้อีก 1 ใบ รวมทั้งหมดมีไพ่ได้ในมือมากสุดเป็น 3 ใบ แต่ในกรณีไม่จั่วเพิ่ม จะเรียกว่า ‘อยู่’ ก็สามารถทำได้ถ้าพอใจแต้มในมือ ทั้งนี้การจะเลือก อยู่ ผู้เล่นมักจะมีผลรวมคะแนนบนหน้าไพ่ ต้องได้อย่างน้อยๆ 4 แต้มขึ้นไป
-
ผลแพ้ชนะ
ทางด้านการวัดผลตัดสินแพ้ชนะ มันก็สามารถเข้าใจได้ไม่ยากครับ ผู้เล่นที่ได้คะแนนมากกว่าก็ถือว่าเป็นชนะไป แต่ทั้งนี้กรณีที่ไพ่ 2 ใบจะสามารถชนะ 3 ใบเป็นกรณีพิเศษ คือการได้ 8 และ 9 แต้ม ซึ่งเรียกติดปากว่า ป๊อก 8 และ ป๊อก 9 ถ้าหากเจ้ามือได้ไพ่ป๊อกเมื่อไหร่ ในรอบนั้นไม่ต้องมีการแจกไพ่ใบที่ 3 เพิ่มให้ได้เลือกจั่ว เพราะเจ้ามือกินรอบวง ยกเว้นในเคสที่ผู้เล่นที่ได้ป๊อกชนแต้มเท่ากันไม่มีการได้เสียสำหรับมทอนี้ หรือว่าผู็เล่นได้ป๊อกแต้มสูงกว่าก็ชนะเจ้ามือไป
-
การได้ไพ่อื่นๆ เด้ง, เรียง, ตอง, เซียน และ สเตรทฟรัช
โดยทั่วไปถ้าเป็นการชนะคะแนนแบบตรงไปตรงมาตามที่กล่าวมาข้างต้น จะได้ผลตอบแทนอยู่ที่ 2 เท่า รวมกับทุน แต่ถ้ามีกรณีพิเศษอื่นๆ จะได้ผลตอบแทนสูงกว่า แบ่งได้ ดังต่อไปนี้
4.1 เด้ง
คือกรณีที่ไพ่สองใบออกหน้าเดียวกัน หรือเรียกว่าดอกเดียวกัน หรือคนละดอกแต่ว่าเป็นตัวเลขเดียวกัน ซึ่งมือนี้จะได้ผลตอบแทน 2 เท่าแบบไม่รวมทุน ถ้าหากไพ่ 2 ใบเลกหรือดอกเหมือนะเรียก 2 เด้ง แต่ถ้าได้ไพ่ 3 ใบ จะเรียก 3 เด้ง ได้ผลตอบแทน 3 เท่าแบบไม่รวมทุน
4.2 เรียง
คือกรณีที่ไพ่ 3 ใบเรียงแต้มกัน ตัวอย่าง คือ ได้ไพ่หน้า 2 , 3 ซึ่งปกติมีโอกาสได้อยู่ได้แล้ว แต่ก็อาจจะจั่วไพ่เพิ่มเพื่อลุ้นให้ได้ไพ่ 4 ผลจะออกมาเป็นไพ่เรียง 2, 3, 4 นั่นเอง แต่ก็แล้วแต่กติกากำหนดว่าไพ่ที่เรียงจะต้องเป็นไพ่เริ่มต้นตั้งแต่แต้มเท่าใด เช่น บางเจ้ามือถ้ากำหนดเลข 10 ขึ้นไป ก็จะสามารถเรียงได้แค่ 10 , J , Q หรือว่า J , Q , K เท่านั้น แต่บางกรณีที่จะให้มีการเรียงวนทุกเลขไปจนถึง A เช่น Q , K , A หรือ A, 1, 2 เป็นต้น ซึ่งต้องทำความเข้าใจในข้อกำหนดก่อนเดิมพัน
4.3 ตอง
คือกรณีนี้ที่ได้ไพ่ทั้ง 3 ใบเป็นแต้มเดียวกันหมด หรือในบางเจ้ามือถ้าได้สามใบออกดอกเดียวกันหมด ก็นับเป็นไพ่ตองได้นั่นเอง
4.4 เซียน
นั่นคือการคละกันของไพ่ J , Q , K ซึ่งอาจซ้ำกันได้ เช่น Q , Q , K มักให้ผลตอบแทนเสมือนตอง หรือ 3 เด้ง แต่ก็แล้วแต่กติกาของแต่ละวงด้วยว่าจะกำหนดให้รูปแบบนี้ชนะได้หรือไม่
4.5 สเตรทฟรัช
คือกรณีที่ได้ไพ่เรียงกัน 3 ใบแล้วมีดอกไพ่เดียวกันด้วย ซึ่งถือว่าเป็นได้ไพ่ 3 เด้งและไพ่เรียงในคราวเดียวกัน ถือได้ว่าเป็นไพ่สูงที่สุดในหลายๆ เกมส์ไพ่คาสิโน บางกติกาของบางเจ้ามือเดิมพันอาจแบ่งเป็น ไพ่สเตรทฟรัช และไพรอยัลสเตรทฟรัช โดยกำหนดแต้มบนหน้าไพ่เอาไว้ในกติกานั้นเอง